ประเภทและชนิดของสายส่งสัญญาณ: เส้นทางสู่โลกดิจิทัล
- Orca Multi System
- 5 ก.ย. 2567
- ยาว 2 นาที

สายส่งสัญญาณ (Transmission Cable) เป็นสายเคเบิลที่ใช้เชื่อมต่ออุปกรณ์เครือข่าย เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ และอุปกรณ์อื่นๆ เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างเครือข่ายท้องถิ่น (Local Area Network) สายส่งสัญญาณเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานเครือข่าย และเป็นตัวกลางในการส่งผ่านข้อมูล โดยใช้สัญญาณไฟฟ้า
ประเภทและชนิดของสายส่งสัญญาณ
สายส่งสัญญาณถูกแบ่งประเภทตามมาตรฐาน IEEE (Institute of Electrical and Electronics Engineers) ซึ่งกำหนดคุณสมบัติทางเทคนิค เช่น ประเภทของสายเคเบิล จำนวนสายภายใน และความเร็วในการส่งผ่านข้อมูล
1. สายส่งสัญญาณแบบ Coaxial Cable (1936)
ต้นกำเนิด: คิดค้นโดย Oliver Heaviside ชาวอังกฤษ ในปี 1936
เทคโนโลยี: สาย Coaxial Cable ประกอบด้วยสายตัวนำกลาง และสายถักล้อมรอบ ซึ่งช่วยลดสัญญาณรบกวนจากภายนอก
มาตรฐาน: IEEE ไม่ได้กำหนดมาตรฐานสำหรับสาย Coaxial Cable แต่สาย Coaxial Cable ถูกนำมาใช้ในระบบเครือข่าย เช่น Ethernet
ระยะการส่งสัญญาณ: ขึ้นอยู่กับชนิดของสาย แต่โดยทั่วไปสามารถส่งผ่านข้อมูลได้ไกลกว่าสาย Twisted Pair Cable
ข้อดี: มีความทนทาน ส่งผ่านข้อมูลได้ไกล
ข้อเสีย: ความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลต่ำ ติดตั้งยาก
2. สายส่งสัญญาณแบบ Twisted Pair Cable (1936)
ต้นกำเนิด: คิดค้นโดย Alexander Graham Bell ชาวสก็อต ในปี 1936
เทคโนโลยี: สาย Twisted Pair Cable ประกอบด้วยสายคู่บิดเกลียว โดยบิดสายคู่แบบต่างๆ เพื่อลดสัญญาณรบกวน
มาตรฐาน: IEEE 802.3
ระยะการส่งสัญญาณ: ขึ้นอยู่กับมาตรฐาน IEEE เช่น
10BASE-T: ความเร็ว 10 Mbps ระยะทาง 100 เมตร
100BASE-TX: ความเร็ว 100 Mbps ระยะทาง 100 เมตร
1000BASE-T: ความเร็ว 1 Gbps ระยะทาง 100 เมตร
10GBASE-T: ความเร็ว 10 Gbps ระยะทาง 100 เมตร
ชนิด: สาย Twisted Pair Cable แบ่งออกเป็น 2 ชนิด:
Unshielded Twisted Pair (UTP): สายคู่บิดเกลียวไม่มีฉนวนหุ้ม
Shielded Twisted Pair (STP): สายคู่บิดเกลียวมีฉนวนหุ้ม เพื่อลดสัญญาณรบกวนจากภายนอก
ข้อดี: ความเร็วสูง ราคาถูก ติดตั้งง่าย
ข้อเสีย: ระยะการส่งสัญญาณค่อนข้างต่ำ
ตัวอย่าง: สายโทรศัพท์, สายแลน
3. สายส่งสัญญาณแบบ Fiber Optic Cable (1966)
ต้นกำเนิด: คิดค้นโดย Charles Kao ชาวอังกฤษ ในปี 1966
เทคโนโลยี: สาย Fiber Optic Cable ส่งผ่านข้อมูลโดยใช้แสง
มาตรฐาน: IEEE 802.3ah
ระยะการส่งสัญญาณ: ขึ้นอยู่กับชนิดของสาย และความเร็ว
1000BASE-SX: ความเร็ว 1 Gbps ระยะทาง 550 เมตร (MMF) หรือ 2 กิโลเมตร (SMF)
1000BASE-LX: ความเร็ว 1 Gbps ระยะทาง 5 กิโลเมตร (MMF) หรือ 10 กิโลเมตร (SMF)
10GBASE-SR: ความเร็ว 10 Gbps ระยะทาง 85 เมตร (MMF) หรือ 300 เมตร (SMF)
10GBASE-LR: ความเร็ว 10 Gbps ระยะทาง 10 กิโลเมตร (SMF)
ชนิด: สาย Fiber Optic Cable แบ่งออกเป็น 2 ชนิด:
Single Mode Fiber (SMF): ใช้ใยแก้วนำแสงเพียงเส้นเดียว
Multi Mode Fiber (MMF): ใช้ใยแก้วนำแสงหลายเส้น
ข้อดี: ความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลสูง ส่งผ่านข้อมูลได้ไกล ทนทานต่อสัญญาณรบกวน
ข้อเสีย: ราคาแพง ติดตั้งยาก
4. สายส่งสัญญาณแบบ STP (Shielded Twisted Pair)
ต้นกำเนิด: พัฒนามาจาก Twisted Pair Cable
เทคโนโลยี: สายคู่บิดเกลียวมีฉนวนหุ้ม เพื่อลดสัญญาณรบกวนจากภายนอก
มาตรฐาน: IEEE 802.3
ระยะการส่งสัญญาณ: ขึ้นอยู่กับมาตรฐาน IEEE
ข้อดี: มีความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลสูง ทนทานต่อสัญญาณรบกวน
ข้อเสีย: ราคาแพง ติดตั้งยาก
การเปรียบเทียบ
ชนิด | เทคโนโลยี | ความเร็ว | ระยะทาง | ราคา |
Coaxial Cable | สายตัวนำกลาง และสายถักล้อมรอบ | ต่ำ | ไกล | ถูก |
Twisted Pair Cable | สายคู่บิดเกลียว | ต่ำ - สูง | ใกล้ | ถูก |
Fiber Optic Cable | ใยแก้วนำแสง | สูง | ไกล | แพง |
STP | สายคู่บิดเกลียวมีฉนวนหุ้ม | สูง | ใกล้ | แพง |
สรุป
สายส่งสัญญาณเป็นส่วนสำคัญของระบบเครือข่าย และมีประเภทและชนิดต่างๆ ที่เหมาะกับการใช้งานในแต่ละสถานการณ์ ผู้ใช้ควรพิจารณาความเร็ว ระยะทาง ราคา และความทนทาน ก่อนเลือกใช้สายส่งสัญญาณ สำหรับงานทั่วไป สาย Twisted Pair Cable ยังคงเป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยม เนื่องจากราคาถูก ติดตั้งง่าย แต่สำหรับงานที่มีความเร็วสูง และระยะทางไกล สาย Fiber Optic Cable จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
Comments